แรงจูงใจ ไปไหน??

น่าจะเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับความเป็นมนุษย์มายาวนานแล้วนะครับ กับอาการขาดแรงจูงใจ หรือที่ในเวลานี้เราเรียกมันว่าอาการ burnout อาการมันก็จะประมาณเบื่อ ตื่นเช้าแล้วไม่สดใส เหมือนเรื่องตื่นเต้นในชีวิตมันหายไป

ตอนนี้ผมกำลังอาการหนักเลยครับ และผมก็กำลังต่อสู้กับมัน ผมเป็นคนที่ชอบศึกษาเรื่องพวกนี้เป็นทุนเดิม ชอบอ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเอง บอกได้เลยครับว่า พอมีอาการไร้แรงจูงใจ ตัวผมเองเนี่ยก็รู้นะต้องแก้ไขยังไง แต่ผมดันเลือกที่จะไม่ทำ ผมเลือกที่จะไปทำอะไรที่มันง่ายกว่านั้นและทำให้เราได้ความสุขในช่วงสั้นๆ ทันที อย่างเช่น เล่นเกมส์ ดู netflix ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นการพักผ่อนก็ได้นะ แต่การเอาเวลาชีวิตไป 5-6 ชั่วโมงต่อวันอย่างที่ผมทำ ผมว่ามันก็ดูจะเกินไปหน่อย และตลอดเวลาที่กลับมาคิดถึงสิ่งที่ต้องทำ แต่เราไม่ทำเพราะไม่มีแรงจูงใจจะทำ มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด และเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่โอเคเลย

ผมคิดว่าตัวผมเองเริ่มที่จะออกทะเลแล้วครับ ผมเริ่มหมดแรงที่จะทำสิ่งต่างๆ เรื่องการทำ youtube ก็ด้วยเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาผมเพิ่งจะรู้สึกดีมากๆ ที่ได้ทำคลิปให้ออกได้รายอาทิตย์อย่างที่ตั้งใจ … แรงจูงใจเป็นอะไรที่ไม่มีความแน่นอนเอาซะเลย ถ้าเป็นแบบนี้เราจะเพิ่งพาแรงจูงใจในการที่จะทำให้เราทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ คงเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่นะครับ

ทีนี้นะครับพอผมเริ่มที่จะหาทางออก ผมก็เริ่มไปไล่อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ แรงจูงใจ พบว่ามีคนพูดถึงเรื่องนี้เยอะมาก และเรื่องหนึ่งที่เป็นที่พูดถึงมากๆ เลยก็คือ เรื่องของ แรงจูงใจกับการมีวินัย

ปกตินะครับเวลาที่คนเราเนี่ยจะมีความอยากลงมือทำอะไรสักอย่าง มันจะมี step แบบนี้ เราได้รับแรงบันดาลใจ และพอมีแรงบันดาลใจเราจะมี แรงจูงใจซึ่งจะนำไปสู่การลงมือทำให้เกิดขึ้นครับ

แรงบันดาลใจ -> แรงจูงใจ -> การลงมือทำ

อย่างเช่น เราไปฟังคนที่สำเร็จเรื่องการทำ youtube มา เค้าเล่าถึงเส้นทางการเดินทางไปสู่แสนซัพที่น่าทึ่งมากๆ ให้เราได้ฟัง และเราก็อยากที่จะทำให้ได้แบบเค้า เราอยากมีรายได้และเป็นที่ยอมรับ การได้ฟังครั้งนี้ทำให้เราหัวใจพองโต และนี่คือแรงบันดาลใจครับ ตอนนี้เรากลับมาบ้านด้วยพลังอะไรบางอย่างที่กำลังลุกระอุ พลังที่กำลังลุกระอุนี่แหละครับ มันคือ แรงจูงใจที่จะส่งให้เรา นั่งวางแผน คิดถึงสิ่งที่เราจะต้องทำ เราจะทำวีดีโอเรื่องเกี่ยวกับอะไร เราจะทำวีดีโอแนวไหน และก็นำไปสู่การลงมือทำ แต่โชคร้ายนะครับ ที่แรงจูงใจมันไม่ได้อยู่กับเราไปได้ตลอด หลายๆ คนแรงจูงใจหมดไปในไม่กี่ชั่วโมง หลายๆ คนอาจจะหายไปตอนเริ่มทำคลิปไป 2-3 คลิป เมื่อไร้ซึ่งแรงจูงใจเราก็พลอยหมดเรี่ยวแรงที่จะลงมือทำไปด้วย อาจจะเพราะเราไม่มีผลลัพท์ที่จะมากระตุ้นให้แรงจูงใจเรามีอย่างต่อเนื่อง เราเลยหาเหตุผลต่างๆ นาๆ มากมายเอามาเป็นข้ออ้างนั่นแหละครับ เรื่องนี้คุ้นๆ ไหมครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับมนุษย์อย่างเราบ่อยๆ อยู่แล้ว จริงไหมครับ

แต่ก็มีหลายๆ คนที่เค้าสามารถทำสิ่งที่ตั้งใจให้สำเร็จได้ และไม่ใช่ว่าเค้าโชคดีที่แรงจูงใจเค้ามีเยอะกว่าคนอื่นนะครับ เรื่องนี้มันเกิดจาก ความมีวินัย ล้วนๆ ครับ ทีนี้เรามารู้จักกับ วินัยกันบ้าง ในขณะที่แรงจูงใจเป็นเรื่องของอารมณ์ จับต้องไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ แรงจูงใจทำให้เราอยากทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ เรียกว่าเป็นตัวการทำให้เราเริ่มต้นได้ แต่การที่เราจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องเนี่ย เราต้องใช้วินัยเป็นหลักครับ เพราะวินัยไม่ได้เป็นอารมณ์ วินัยเป็นลักษณะทางกายภาพ เป็นเรื่องของระบบประสาท เป็นสิ่งที่เราสร้างและทำมันได้

เรารู้ว่าการจะประสบความสำเร็จ ได้ผลลัพท์อะไรบางอย่างจากการทำ youtube เราต้องมีการลงคลิปวีดีโออย่างสม่ำเสมอ ถ้ารอให้มีแรงจูงใจ หรือรอมีอารมณ์ทำ เราคงไม่ได้ทำแน่ๆ ครับ สิ่งที่ควรจะเป็นคือ ในเมื่อรู้ว่าการสร้างคลิปอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เราก้าวไปข้างหน้า วินัยจะมาช่วยตรงนี้ ให้เราลงมือทำทั้งๆ ที่ไร้ซึ่งแรงจูงใจนั่นแหละครับ ฟังดูเป็นเรื่องอะไรที่เหมือนกับว่าเราต้องฝืนตัวเองทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ดูจะเป็นอะไรที่หนักหนาอยู่เหมือนกันใช่ไหมครับ และถ้าเราเป็นคนที่ไม่มีวินัยหละ เราจะทำยังไงได้บ้าง..

ผมอ่านเจอเรื่องนึง และผมเห็นด้วยมากๆ เลยครับ เค้าบอกว่า วินัยเนี่ยไม่ได้เป็นนิสัยครับ แต่มันเป็นเครื่องมือ และเป็นเครื่องมือที่ทุกคนมี แต่ไม่ไช่ทุกคนที่ใช้ หมายความว่า ในวันที่เราไร้ซึ่งแรงจูงใจเนี่ย เราสามารถใช้วินัยในการที่จะบอกให้ตัวเราเองทำอะไรสักอย่าง ง่ายๆ เล็กๆ ที่เป็นสิ่งที่ทำให้อย่างน้อยๆ เราได้ขยับไปใกล้เป้าหมายที่เราตั้งใจ ตัวอย่างถ้าเป็นเรื่อง youtube ในวันที่ผมไร้แรงจูงใจ ผมก็จะพยายามไปนั่งดูว่าเรื่องต่อไปผมอยากจะทำเกี่ยวกับอะไร กระบวนการง่ายๆ ที่ทำได้แน่ๆ ไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรมากเกินไป และผมอาจจะไปเจอหัวข้อที่ทำให้ผมสนใจ และรู้สึกดีที่จะได้ทำเรื่องนี้ และบางทีการเริ่มทำอะไรง่ายๆ แบบนี้ก็เป็นเหมือนการเติมแรงจูงใจได้เหมือนกัน หรืออย่างในวันที่ผมต้องออกวิ่ง และวันนั้นเป็นวันที่โคตรจะไม่อยากวิ่งเลย ผมก็อาจจะเลือกที่จะใส่ชุดวิ่งก่อนเพราะเป็นอะไรที่ทำได้เลยไม่ต้องคิด และมันอาจจะส่งให้ผมออกไปวิ่งในเช้าวันนั้นก็ได้ หรืออาจจะไม่ออกก็ได้ แต่อย่างน้อยผมก็ได้ทำ อะไรแบบนี้แหละครับที่เรียกว่า วินัย

เรื่องนี้ทำให้ผมคิดถึงหนังสือที่ผมอ่านเล่มหนึ่งของ mark manson เป็นเล่มที่ผมเคยพูดถึงในคลิปเรื่อง 3 แนวคิดในการเริ่มต้นเป็น youtuber ที่มีความสุข mark manson เค้าเสนอแนวคิดที่ชื่อว่า เทคนิคการลงมือทำอะไรสักอย่าง ในวันที่คุณไร้ซึ่งแรงจูงใจ ไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลย อย่าอยู่เฉยๆ ให้ความรู้สึกแย่ๆ กัดกินจิตใจ ให้เราลงมือทำอะไรสักอย่าง อะไรก็ได้ เล็กๆ ง่ายๆ ถึงคุณจะไม่รู้ว่าจะทำไปทำไมก็ตาม อย่าไปรอให้แรงจูงใจเกิด เพราะเราคาดเดาไม่ได้ เราต้องลงมือทำเพื่อสร้างมันขึ้นมาครับ mark manson เค้าเชื่อว่าการที่เราลงมือทำอะไรซักอย่างจะเป็นเหมือนการเพิ่มแรงบันดาลใจ แรงจูงใจใหม่ๆ ให้เราได้ ระบบจะเป็นแบบนี้ครับ

ลงมือทำ -> แรงบันดาลใจ -> แรงจูงใจ -> การลงมือทำ เป็นวงกลมไปแบบนี้ครับ

ถึงแม้ว่าการลงมือทำอาจจะไม่ได้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในทุกครั้ง แต่การที่เราตัดสินใจลงมือทำได้ ทำให้เราได้พัฒนาวินัยของตัวเราเองให้ดีมากยิ่งขึ้น เราจะรู้จักใช้งานมันได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน

ทุกวันนี้นะครับ เราอยู่กับสถาณการณ์โรคระบาดที่ยังไม่ได้แก้ไขได้ดีสักเท่าไหร่ เรื่องการจัดการวัคซีนในประเทศก็อีกเรื่องนึง ปัญหาการเมืองบ้านเราเยอะแยะมากมาย และยังมีปัญหาส่วนตัวที่ต้องเจอของแต่ละคนอีก สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเป๋ ทำให้เรารู้สึกแย่ ไร้ซึ่งแรงจูงใจ ถ้ากำลังเป็นแบบนี้อยู่ พักซักหน่อย แล้วลองจัดการสิ่งต่างแบบเล็กๆ ทีละนิดๆ เอาที่เราไหว ดูนะครับ ลองลุยกับมันทั้งๆ ที่ท้อแท้นี่แหละ พยายามอย่าปล่อยให้ตัวเองจับจดกับความคิดแย่ๆ มากจนเกินไปนะครับ สมองเรานี่แหละตัวดี ในวันที่เราไม่มีความตื่นเต้นใดๆ ในชีวิต สมองมักจะหาสิ่งตื่นเต้นนมาให้เสมอ แต่เป็นสิ่งตื่นเต้นที่ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ หนักไปทางเวิ่นเว้อและส่งผลให้เรารู้สึกแย่กับชีวิตมากกว่าเดิม ..

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *