ตัวจบอีกแล้วครับคุณผู้ชม.. กับ Tamron 17-70 f2.8 ยอดเลนด์สำหรับกล้องตัวคูณ ตัวเดียวเที่ยวทั่วโลก ดีขนาดนี้ เปรียบเทียบกับ sigma trio 16 30 56 f1.4 ทั้งชุด แทนกันได้ไหม? วันนี้เราจะมาคุยเรื่องนี้กันครับ
ที่อยู่ในมือผมตอนนี้คือเลนส์ Tamron 17-70mm F2.8 และเป็น F2.8 ตลอดช่วง เป็นเลนส์อเนกประสงค์นะครับ ตัวเดียวครอบคลุมทุกระยะการถ่ายตั้งแต่ wind ไปจน tele ถ้าเทียบระยะเป็น fulframe ก็จะเป็น 25.5-105mm นะครับ ในตลาดตอนนี้ก็จะมีคู่เทียบอยู่ตัวเดียวคือเลนส์ sony 16-35 f2.8 ระยะเริ่มต้น 16 กะ 17 ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ระยะซูม Tamron กินขาด มีกันสั่นในเลนส์ด้วย และราคาก็ยังถูกกว่า… พวกเราสามารถหาดูการเปรียบเทียบเลนส์สองตัวนี้ Tamron 17-70 f2.8 และ Sony 16-35 f2.8 ได้ใน youtube ได้ครับ มีคนเปรียบเทียบให้ดูอย่างละเอียดแล้ว
ในต่างประเทศเค้ารีวิวเลนด์ตัวนี้มาได้ซัก 2 เดือนแล้ว แต่ของเพิ่งจะวางขายบ้านเราเมื่อต้นเดือนกุมพานี่เอง สิ่งที่ทำให้ผมสนใจ และอยากได้เลนส์ตัวนี้มาใช้ หลักๆ ก็มาจากความที่ไม่อยากพกเลนส์เยอะ ขี้เกียจเปลี่ยนเลนส์บ่อยๆ ตัวนี้มันตอบโจทย์ได้ดี อ่อ มันมีกันสั่นด้วยนะครับ และกล้องที่ผมใช้ตัว sony a6400 มันไม่มีกันสั่น ตัวนี้ก็เลยยิ่งน่าใช้ขึ้นมาอีก
ทีนี้มาดูความคิดเห็นของผมในด้านการใช้งานกับเลนส์ Tamron 17-70 F2.8 กันครับ ความเห็นทั้งหมดมาจากการที่ผมเสียเงินซื้อมาใช้เองนะครับ จะเป็นในมุมของคนที่ตั้งใจจะใช้ไปยาวๆ เน้นเอาถ่ายวีดีโอทำคลิปลง Youtube ไม่ได้เอามาทำรีวิวเฉยๆ และไม่ได้ค่าสปอนเซอร์ใดๆ เรามาดูเรื่องแรกกันครับ
ไฟล์ภาพ และวีดีโอ
หลังจากที่ได้มาแล้ว ผมลองเอาไปถ่ายภาพนิ่ง และวีดีโอที่ตลาดเพื่อเป็นการทดสอบเลนส์ตัวนี้ดู และนี่คือคลิปที่ผมถ่ายด้วยเลนส์ Tamron 17-70 f2.8 กับกล้อง sony a6400 ใช้ความละเอียดเป็น 4k 25p ถือด้วยมือเปล่า และเปิดกันสั่นที่ตัวเลนส์แล้วนะครับ ไปลองชมกันได้ใน youtube ตามลิงค์ที่ผมให้ไว้ได้เลยครับ
สำหรับวีดีโอและภาพนิ่ง มีความดีงามสมราคานะครับ ซึ่งเอาจริงๆ เลนส์ที่มีราคาในยุคสมัยนี้ ถ้าดูจากสายตา ไม่เอาข้อมูลเชิงเทคนิคมาขิงกัน หรือการซูมขยายเล็งแบบเอาเป็นเอาตาย ส่วนตัวผมก็เห็นว่ามันก็คมเหมือนกันหมด สำหรับผมค่อนข้างพอใจมากๆ นะครับ กับคุณภาพทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ
กันสั่นผมว่ามันใช้งานได้ดีในระดับนึงนะครับ เช่นถ้าเป็นสาย vlog พาเที่ยว หรือออกไปถ่ายวีดีโอประกอบคอนเทนต์ ที่ไม่ได้ต้องเดินตาม หรือโลดโผน ผมว่าตัวเดียวก็ใช้งานได้ ไม่ต้องใช้กิมบอลนะครับ
ระยะ Focus
ระยะ focus ที่ ใกล้ที่สุดของเลนส์ Tamron 17-70 f2.8 คือ 7.5 นิ้ว หมายความว่าระยะที่ซับเจกห่างจากเซนเซอร์กล้องนะครับ ไม่ใช่ระยะที่ซัพเจกห่างจากหน้าเลนส์ อันคือดีงามมาก ทำให้เราถ่ายใกล้ๆ ได้อารมณ์เลนส์มาโครเลยครับ
การจับถือและความคล่องตัว Tamron 17-70 f2.8 กับ Sony a6400
สำหรับเรื่องของการจับถือ ความคล่องตัวในการทำงานเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งของผมเหมือนกัน เลนส์ Tamron 17-70 F2.8 มีความยาวประมาณ 4.6 นิ้ว น้ำหนัก 525g ก็เรียกว่าไม่ใหญ่ ไม่เล็กอะนะครับ พอติดกับ sony a6400 น้ำหนักรวมก็ยังไม่ถึง 1โล ถือได้นานอยู่นะครับ ไม่ได้เมื่อยมือเท่าไหร่ การเอาไปใช้ในร้านกาแฟ หรือสถานที่ต่างๆ ก็อาจจะมีเขินๆ อยู่บ้างนะครับ มันก็ไม่ได้เล็กซะทีเดียว
การถ่าย selfie vlog
เลนส์ระยะ 17mm หรือ 25.5mm บน fullframe ก็พอจะยืดแขนเดิน selfie vlog ได้ประมาณนึง ส่วนตัวไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้ แต่ลองเทสมาให้คุณผู้ชมดู เอากล้องติดกับ sony grip เดิน vlog ใช้กันสั่นบนตัวเลนส์ ก็จะได้ภาพประมาณนี้ครับ ถือได้ไม่นาน เมื่อยแขนเหมือนกันครับ ไม่น่าเหมาะกับสาวๆ เท่าไหร่สำหรับการใช้เอามาทำ selfie vlog ไปลองชมกันได้ใน youtube ตามลิงค์ที่ผมให้ไว้ได้เลยครับ
Tamron 17-28 f2.8 แทน Sigma Trio 16 30 56 f1.4
ทีนี้เรามาดูว่า ถ้าให้เลือกระหว่างเลนส์ Tamron 17-70 ตัวนี้ตัวเดียวกับ Sigma Trio ทั้ง 3 ตัวหละเลือกอะไร ผมจะลองหาเหตุผล ข้อดี ข้อเสีย และการเปรียบเทียบคร่าวๆ จากการใช้งานของตัวผมเองมาเล่าให้ฟังนะครับ
ราคา Tamron 17-70 F2.8 ราคาอยู่ที่ 29,990 บาท และ Sigma Trio ทั้ง 3 ตัว 16,30,56 F1.4 ราคารวมอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 35,000 ครับ ไม่ได้ห่างกันมาก
ระยะเลนส์ Tamron ใช้งานได้ครอบคลุมที่ระยะ 17-70mm โดยไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์ ส่วน sigma trio กว้างกว่านีสสเดียวที่ 16mm และสามารถเปลี่ยนเลนส์ใช้งานเอาที่ระยะ 30mm และ 56mm
นำ้หนักรวม และการพกพา ในกรณีที่ต้องออกไปถ่ายข้างนอก เราก็ต้องเอาอุปกณ์เราใส่กระเป๋ากล้องติดตัวไป ถ้าเลือกใช้ Tamron 17-70 F2.8 กับ Sony a6400 น้ำหนักรวมจะอยู่ที่ 525+403 เป็น 928g ส่วน Sigma trio ทั้งสามตัวรวมกับ a6400 จะอยู่ที่ 405+264+281(950) = 1355g หรือ 1.3kg นี่คือน้ำหนักที่จะอยู่ในกระเป๋ากล้องที่เราแบกไปครับ น้ำหนักไม่ได้แตกต่างกันมากมาย แต่เรื่องความสะดวกก็คงยังต้องยกให้ Tamron นะครับ
เรื่องรูรับแสง และประเด็นหลักอันดับหนึ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญของการเปรียบเทียบครั้งนี้คือเรื่องรูรับแสงนั่นเองครับ เราต้องการรูรับแสงกว้างๆ อย่าง f1.4 ก็เพราะต้องการละลายฉากหลังให้ตัวแบบโดดเด่นออกมา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสาย portrait ภาพถ่ายบุคคล และสายคาเฟ่ ถ่ายร้านกาแฟสวยๆ ที่ตอนนี้นิยมกันมากๆ ทีนี้เราก็ต้องมาเทสกันดูหละครับว่า f2.8 ของ Tamron เนี่ย มันให้ความละมุนของฉากหลังได้ในแบบที่เราโอเคไหม รับได้ไหม และถ้าเปรียบเทียบกับ f1.4 ของ sigma จะต่างกันขนาดไหน
*ปล. คือการเอา f2.8 มาเทียบกับ f1.4 จริงๆ มันไม่น่าจะเทียบกันได้อยู่แล้ว แต่ที่วันนี้ผมเทียบให้ดู ในเคสที่ว่า ถ้าต้องเลือกเอาอย่างเดียวจะเลือกอะไร เชื่อว่าคนเล่นกล้องสายงบไม่เยอะแบบผม น่าจะมีอยู่เยอะเหมือนกัน ผมเองคงเก็บไว้ใช้ทั้งหมดไม่ได้ คงต้องปล่อย Sigma ออกไปนะครับ และเผื่อใครที่กำลังชั่งใจกับสองตัวนี้ คลิปนี้จะได้มีประโยชน์กับคุณ เพราะว่ามันอยู่ในงบที่พอๆ กัน มาดูภาพที่ถ่ายในระยะต่างๆ เทียบกันนะครับ
ต้องบอกว่า f1.4 มันให้มิติภาพ และความสวยงามในแบบที่ f2.8 ให้ไม่ได้จริงๆ นะครับ อยากสะดวกสะบาย ตัวเดียวเที่ยวทั่วโลก แต่ก็ต้องมาแอบนอยด์กับความไปไม่สุดในบางสถาณการณ์ที่ f2.8 ให้ไม่ได้
และสำหรับส่วนตัวผมคงยังไม่มีข้อสรุปนะครับ ว่าผมจะเลือก Tamron 17-70 เป็นเลนส์ตัวเดียวเที่ยวทั่วโลก เลนส์ตัวเดียวทำคอนเทนด์แบบจบๆ ไม่เยอะกับอุปกรณ์อย่างที่เคยโม้ไปหรือป่าว เอาเป็นว่าผมอาจจะต้องเก็บมันเอาไว้ทั้งหมดก่อน เพราะกรอบความคิดที่ว่า เหลือ ย่อมดีกว่าขาด ยังใช้ได้ดีเสมอ..
แต่ถ้าเงินขาดมือเมื่อไหร่ ผมคงจะเลือกปล่อย Sigma 16 และ 30 ออกไปก่อนนะครับ ฮ่าา