Mindset สู่ความสำเร็จ: เริ่มต้นจากปัจจุบัน
ช่วงนี้มีหลายท่านทักมาพูดคุยกับผม ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ว่า จะทำยังไงให้สามารถออกมาทำคอนเทนต์ พูดหน้ากล้อง ให้ความรู้ และมีคอร์สเรียนออนไลน์สร้างรายได้เหมือนอย่างที่ผมทำอยู่ ซึ่งคำแนะนำที่ผมพอจะให้ได้มันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่พิเศษ ส่วนใหญ่ทุกคนก็รู้กันดีอยู่แล้ว วันนี้ก็เลยเลือกที่จะไม่เขียนแนวทาง แต่ขอเป็นเรื่องของ mindset ก็แล้วกัน
ตัวผมเองไม่ได้มีความสำเร็จในด้านนี้ที่ใหญ่โตอะไรนะครับ แต่ถ้าจะให้พูดเรื่องของปัญหาที่มีก่อนที่จะลากตัวเองออกมาทำคอนเทนต์ พูดหน้ากล้อง เปิดสอนคอร์สเรียนแรกได้ อันนี้คุยกันได้ทั้งวันแน่นอน
ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ผมสร้างตัวตนในโลกออนไลน์หลายรอบมาก อยากเป็น Youtuber อยากเป็นที่รู้จัก อยากมีรายได้อย่างคนดังๆ ที่เราติดตามอยู่ จนแล้วจนรอด ผมก็ยังเป็นทอมมี่คนเดิม ที่วิ่งไล่กับการเปิดช่องใหม่ ทำคอนเทนต์ใหม่ วางแผนใหม่ซ้ำๆ วนเป็นวงกลมอยู่แบบนั้นโดยที่ไปไม่ถึงไหนสักที กว่าที่จะคิดได้ว่าปัญหาของตัวเองที่มีอยู่คืออะไรก็ใช้เวลาไปเป็นปีทีเดียว
ปัญหาของผมคือการที่ตัวผมเองอยากได้ผลลัพธ์อย่างคนดังๆ ไอดอลที่ผมชื่นชอบ ความสำเร็จ ความร่ำรวย มีผู้ติดตามมากมาย แต่ผมไม่มีความพร้อมที่จะเป็นอย่างคนเหล่านั้นจริงๆ…
การเป็นในแบบที่คนสำเร็จเขาเป็นกันคืออะไร… 🤔
มันก็คือการทำงานหนักไงหละครับ การทำคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอติดต่อกัน วางแผน ถ่ายคลิป ตัดคลิป โพสลงสื่อโซเชี่ยล ทำเป็นประจำ แม้ว่าวันไหนจะไม่อยากทำก็ตาม อันนี้แหละ คือการเป็นอย่างที่คนสำเร็จเป็นกัน ซึ่งผมไม่มี..
ก็รู้แล้วนี่ว่าจะต้องทำยังไง แล้วทำไมไม่ทำอีกหละ ..
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่ารู้หรือไม่รู้นี่สิครับ ปัญหามันอยู่ที่ ความคิดหรือ mindset ที่เรามีต่างหาก..
☘️”เราจะไม่ได้สิ่งที่เราอยากได้ แต่เราจะได้ในสิ่งที่เราเป็น”
กฎแห่งจินตภาพหรือ Manifestation บอกเอาไว้ว่า ถ้าเราสามารถจินตนาการถึงสิ่งที่เราต้องการจนรู้สึกได้ว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ สิ่งนั้นก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงเช่นกัน เพราะทุกความสำเร็จบนโลกใบนี้จะเกิดขึ้นสองครั้งเสมอ ครั้งแรกในหัว ครั้งที่สองคือความจริงตรงหน้า
ถ้ายึดตามกฏธรรมชาตินี้ เราจะเห็นว่าสิ่งที่สำคัญที่ควบคุมชีวิตเราจริงๆ คือความคิดนั่นเอง เพราะความคิดกำหนดอารมณ์ อารมณ์กำหนดการกระทำ และสิ่งที่เราลงมือทำคือตัวกำหนดว่าเราจะเป็นหรือได้อะไรอย่างที่ตั้งใจเอาไว้
ในเมื่อเรารู้แล้วว่าความคิดเป็นอะไรที่สำคัญที่สุด และการที่เราจะดูแลความคิดของเราให้ดีได้นั้น เราก็ต้องมีสติรู้เท่าทันมัน วิธีการก็หนีไม่พ้นเรื่องของการฝึกสติ ฝึกสมาธิ ฝึกอยู่นิ่งๆ คิดน้อยๆ ผ่อนคลายให้เป็นนิสัย แต่วันนี้เราจะไม่คุยเรื่องสมาธิกันนะครับ ทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่ามันดีต่อตัวเรามากขนาดไหน แนวทางที่ผมจะคุยให้ฟังต่อไปนี้เป็นเรื่องของการอยู่กับปัจจุบันครับ (ซึ่งแน่นอนว่าการที่คุณจะอยู่กับปัจจุบันได้ดี คุณต้องมีสติ และสมาธิ แต่อย่างที่บอกเราจะไม่คุยเรื่องสมาธิกันนะ 😅) สิ่งที่เราต้องทำก็คือทำให้ปัจจุบันมันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราอยากจะเป็น ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำไปทีละปัจจุบัน ทีละปัจจุบัน มาดูวิธีการกันดีกว่า
✅สิ่งแวดล้อมของเราในเวลานี้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับอนาคตที่เราต้องการบ้าง
ลองคิดว่าในวันที่เราสำเร็จ ตอนนั้นเราจะยังกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ หรือข้าวผัดกะเพราไข่ดาวที่เราชื่นชอบอยู่ไหม ซึ่งเชื่อว่าถึงเราจะมีความสำเร็จ ร่ำรวยแค่ไหน สิ่งที่เราชอบ เราก็ยังจะยังชอบมันอยู่วันยังค่ำ เพราะฉนั้นสิ่งนี้คือสิ่งที่เชื่อมโยงกัน
เรารู้สึกดีได้เลยในวันนี้ นี่ฉันก็ได้กินของอร่อยแล้วนี่นา ตอนนี้ก็ได้อยู่กับลูกๆ ได้มีเวลาพูดคุยกัน ได้กินมื้อค่ำกับคนที่รักทุกวัน
คือจะบอกว่าในชีวิตเราจริงๆ มีหลายสิ่งหลายอย่างเลยครับที่ในวันที่เราสำเร็จ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็จะยังอยู่ในชีวิตเรา ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณมีสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องรอความสำเร็จมาถึง สิ่งที่คุณต้องทำก็คืออยู่กับบรรยากาศนั้น อยู่กับช่วงเวลานั้น อยู่กับปัจจุบันตรงนั้นให้เต็มที่ และรู้สึกขอบคุณที่สิ่งนี้เกิดขึ้นกับคุณ ไม่ต้องไปห่วงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ไม่ต้องไปกลัวอดีตเลวร้ายจะตามมาหลอกหลอน
คุณนั่งกินข้าวผัดกะเพราไข่ดาวเจ้าโปรดก็กินไปด้วยความขอบคุณ เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ กับสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น
คุณกำลังนั่งทานข้าวเย็นกับครอบครัว หยุดสมองที่คิดเรื่องงาน หรือคิดว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงซะ จดจ่ออยู่กับคนที่เรารักตรงหน้า ความรู้สึกอบอุ่นที่มีครอบครัวอยู่พร้อมหน้า ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นจริงๆ ตรงนั้นให้ได้
การที่คุณมองเห็นว่ารอบตัวคุณมีเรื่องดีๆ มากมายแค่ไหน พร้อมกับความรู้สึกขอบคุณสิ่งเหล่านั้น จะเป็นการส่งเสริมให้คุณสามารถประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่บอกเอาไว้ ความคิดกำหนดอารมณ์ อารมณ์กำหนดการกระทำ และการกระทำกำหนดความสำเร็จของเรา เราจะไม่ได้ในสิ่งที่อยากได้ แต่เราจะได้ในสิ่งที่เราเป็น ฝึกขอบคุณกับสิ่งดีๆ ที่คุณมี และทำเต็มที่กับปัจจุบันที่เข้ามา
✅ อะไรที่เราต้องทำ ที่จะพาเราไปสู่การเป็นคนที่เราอยากเป็น ความสำเร็จที่เราอยากได้
การอยู่กับปัจจุบัน และการขอบคุณจะทำให้ความคิดเราอยู่ในระดับพลังงานที่ดี เมื่อความคิดมันเริ่มดี อารมณ์ก็จะจัดการได้ดี เราจะมีพลังในการทำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นได้ดียิ่งขึ้น เรื่องนี้ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรลับลวงพลาง
ทีนี้เราก็ต้องมาดูว่า การจะทำให้ได้อย่างไอดอลที่เราชื่นชอบหรือการจะกลายเป็นคนสำเร็จนั้นเราต้องทำอะไรบ้าง ถ้าผมอยากจะเป็นครู เป็นโค้ช สอนในสิ่งที่ตัวเราเองรัก แบ่งปันความรู้ที่มี สิ่งที่เราต้องทำก็คือการทำให้คนอื่นๆ รู้จักเรา เราต้องสร้างตัวตนในโลกออนไลน์ เราต้องทำคอนเทนต์ ต้องเขียนโพส อัดคลิปวีดีโอ ต้องมีความรู้เรื่องการตลาด ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน รวมไปถึงใช้งาน AI ที่กำลังเข้ามามีบทบาทในทุกเรื่องของชีวิต
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราต้องทำ เราหนีเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ถ้าเรารู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่เราชอบทำเลย นั่นก็หมายความว่าคุณแค่อยากจะได้ผลลัพธ์อย่างที่คนสำเร็จมีกัน แต่คุณไม่ได้อยากจะเป็นคนแบบนั้นจริงๆ แนะนำว่า ให้คุณเลือกสิ่งที่คุณต้องการเป็นจริงๆ เพราะคุณจะต้องอยู่กับมันไปอีกนาน
ทีนี้เราก็รู้แล้วนะครับว่ามีงานอะไรมากมายรอให้เราลงมือทำ เพื่อที่เราจะได้เป็นคนในแบบที่เราต้องการ ทีนี้การที่จะเริ่มต้นทำคลิปวีดีโอสักคลิปหนึ่ง หรือการเขียนโพสสักโพส สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น สิ่งสำคัญคือ อย่าไปเยอะกับการลงมือให้มาก แน่นอนว่าเรามีไอดอลที่เราชื่นชอบเป็นตัวอย่างให้เราเดินตาม เราเห็นคลิปวีดีโอที่สวยงามมียอดวิวยอดไลท์ และทุกคนก็ต้องการที่จะให้คลิปหรือคอนเทนต์ของเราเป็นได้แบบนั้น ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรนะครับที่เราจะคิดแบบนี้ แต่เราก็ควรรู้ด้วยว่าคนที่เราชื่นชอบในวันนี้ส่วนใหญ่ก็มีช่วงเวลาหนักหนาสาหัสในการเริ่มต้นเหมือนกันทั้งนั้น ผมไม่อยากให้เราต้องเครียดกับการคาดหวังมากเกินไปจนไม่ได้เริ่มทำสักที
ถ้าคุณมีแค่มือถือถ่ายวีดีโอได้ คุณก็เริ่มได้เลย อย่าไปหลอกตัวเองว่ารอให้พร้อม รอให้มีกล้องดีๆ เลนด์ดีๆ หรือรอให้พูดเก่งกว่านี้ ค่อยทำ อย่าคิดแบบนั้นเลยครับ เพราะมันจะทำให้คุณไม่ได้เริ่มต้นทำสักที
โลกเดี๋ยวนี้มันไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว ความสำเร็จที่เกิดจากมือถือเครื่องเดียวมีให้เห็นมากมาย ผมแนะนำให้คุณเริ่มลงมือทำเลย เริ่มจากสิ่งที่คุณมีในวันนี้ ไม่ว่าคุณจะเก่งหรือไม่เก่งก็ตาม หยุดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ให้โฟกัสที่การลงมือทำให้ได้อย่างสม่ำเสมอ คนเดียวที่คุณควรเปรียบเทียบด้วยคือตัวคุณเอง
โดยปกติแล้วถ้าคุณทำคลิปวีดีโอได้เป็นประจำ คลิปแรก กับคลิปที่ 10 จะแตกต่างกันเสมอ คุณจะเห็นได้เลยว่าคลิปที่ 10 คุณจะทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม และการที่คุณมีคลิปวีดีโอหรือคอนเทนต์ในช่องทางของคุณมากขึ้น มันก็คือหลักฐานที่บอกว่าคุณกำลังเป็นคนในแบบที่คุณต้องการ และผู้คนที่เข้ามาเจอคุณ เขาเองก็จะได้รู้ว่าคุณเป็นใครทำอะไรได้จากหลักฐานที่คุณได้สร้างเอาไว้ และที่สำคัญก็คือ โอกาสมักจะมาพร้อมผู้คนเสมอ
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผมยึดถือ และพยายามฝึกให้ได้อย่างสม่ำเสมอ อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้นะครับ ว่าผมเองก็ไม่ได้มีความสำเร็จอะไรใหญ่โตให้เอามาเครมได้ว่า “ทำตามผมสิ แล้วคุณจะสำเร็จได้อย่างผม” ไม่ได้มีอะไรแบบนั้น ทั้งหมดที่แนะนำคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ และมันส่งผลดีมากมายกับชีวิตผมเองในวันที่เรียกได้ว่าเป็นไฟไหม้ในดงพายุ และผมก็เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำงานได้ดีกับชีวิตทุกคนเช่นกัน
เมื่อเราสามารถมองเห็นสิ่งดีๆ ที่เรามี ขอบคุณสิ่งเหล่านั้นได้อย่างซาบซึ้ง ลดความกังวลกับอนาคตที่ไม่แน่นอน วางความกลัวที่เกิดขึ้นในอดีต พาตัวเองอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในแต่ละช่วงเวลาได้ เห็นปัจจุบันอย่างที่เป็น ยอมรับ และเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ความคิดและหัวใจเราจะสงบ อยู่ในคลื่นพลังงานที่ดี ส่งผลให้เราลงมือทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น เห็นโอกาสต่างๆ ที่เข้ามาได้อย่างชัดเจน
เมื่อเป็นแบบนี้ ความสำเร็จที่เราต้องการก็ไม่น่าจะเป็นไปไม่ได้จริงไหมครับ