และแล้วการคบหาดูใจกันมาร่วมๆ 5 เดือน ของผมกับน้อง Sony RX100vi ก็ถึงวันสิ้นสุด เมื่อผมต้องปล่อยเธอไป.. และสาเหตุหลักที่ผมต้องตัดสินใจแบบนั้นเพราะการเข้ามาของ Ricoh GRIII นั่นเอง
เรื่องราวของรักสามเส้า น้ำเน่าเคร้าน้ำตาแบบนี้ หลายๆ คนน่าจะเคยได้ประสพ พบ เจอ กันมาบ้าง ผมบอกได้แค่ว่า ของแบบนี้ไม่เจอกับตัว มันยากที่จะไปบอกใครๆ ว่ารู้สึกอย่างไรจริงๆ การที่ต้องตกอยู่ในฐานะผู้เลือก เลือกระหว่าง สองสิ่งที่ต่างก็มีความดีงามในตัวเอง ระหว่างสองสิ่งที่ผมก็ “ตกหลุมรักเมื่อแรกเห็น”.. ช่างดูเป็นช่วงชีวิตที่ยากจะผ่านไปได้จริงๆ
ผมใช้ชีวิตร่วมกับน้อง RX100Vi มาประมาณ 5 เดือน เราเจอกันในช่วงก่อนวัน
คริสต์มาสปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ผมคุ้นเคยกับเธอมาก่อน เราคบๆ เลิกๆ กันมาตั้งแต่ตอนที่เธอนั้นเป็น M3 , M4 ,M5 และตอนนี้ ที่เธอไฉไล และเต็มไปด้วยฟังชั่นการใช้งานขั้นเทพในเวอชั่น m6 ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง รูปลักษณ์ และความสามารถของเธอนั้นเจิดจรัส แจ่มจ้า ไปทั่วโลก และเป็นที่หมายปองของใครมากมาย ด้วยความที่มีหุ่นกะทัดรัด ทรงดี และเพียบพร้อม ครบเครื่องไปทุกด้าน ผมอยากจะขอสาธยายความดีงามของเธอให้คุณผู้อ่านได้ฟัง
- ระบบโฟกัสฟ้าผ่า ที่ในช่วงเวลานี้คงจะหากล้อง compact ตัวใดในโลกมาเปรียบด้วยได้ยาก ว่องไว พริ้วไหว ไว้ใจได้แม้ในที่แสงน้อย
. - มี EVF หรือช่องมองภาพ ให้ใช้ในสถาณการณ์ที่ยากลำบาก เช่นในยามถ่ายกลางแจ้ง ที่ยากจะใช้ตามองดูจากจอภาพ และน่าจะเป็นที่ถูกใจสำหรับคนมีอายุ ผู้มีวิสัยทัศน์ กว้างไม่เท่าไหร่ แต่ไกลมากเช่นผม (สายตายาวนั่นแหละ) เพราะไม่ต้องยื่นมือออกไปไกลเวลาถ่ายภาพ ถ้าผู้อ่านยังงง ลองจินตนาการแบบนี้ เวลาถ่ายภาพด้วยการมองจอหลัง สำหรับคนทั่วไปยกขึ้นมามองดูกดถ่าย สำหรับผู้สูงวัย สายตายาว ยกขึ้นมาแล้วต้องยืดมือไปข้างหน้าเพื่อให้เห็นจอภาพชัดๆ จากระยะโฟกัสของสายตาที่มันไก๊ไกลล ทำให้ท่าทางดูไม่ได้และเสียบุคลิกอย่างแรง การมีช่องมองภาพช่วยเราได้เยอะ เอาจริงๆนะ ขึ้นชื่อว่ากล้องถ่ายภาพแล้วมันก็ควรจะมีช่องมองภาพหรือป่าว??
. - จอพับได้ ความสามารถนี้ควรจะมาให้ในกล้องทุกรุ่นนะเอาจริงๆ เพราะมันจะช่วยให้เราถ่ายมุมยากๆ ได้แบบง่ายๆ ชีวิตง่ายขึ้นมากเลยขอบอก เธอช่างครบเครื่องจริงๆ
. - นอกจากถ่ายภาพนิ่งได้ดีแล้ว น้อง RX100VI ยังเก่งเรื่องงานวีดีโอด้วย ฟังชั่นการถ่ายวีดีโอที่มากับเธอนั้นถือว่าเป็นระดับมืออาชีพใช้งาน “ในครัวเธอเด่น บนเตียงเธอเยี่ยม” ต้องใช้คำนี้เลยย
. - Zoom ได้ การที่มีกล้องซูมได้ ทำให้เรามีทางเลือกในการสร้างสรรค์ภาพในซีนที่เจอมากขึ้น เพราะในแต่ละระยะซูมเราก็จะได้ภาพที่แตกต่างกันไปมากมาย เธอช่างดีงาม
. - อันนี้ส่วนตัวชอบมาก น้องมี Flash ติดกล้องมาด้วย
.
สำหรับข้อเสียของเธอผมไม่อยากพูดถึงเท่าไหร่ มันดูไม่ค่อยจะแมน ที่จะมานั่งเม้ามอยข้อเสียของคนที่ไม่ถูกเลือก หลายๆ คนบอกว่าน้อง RX100VI เซ็นเซอร์เธอเล็กนิดเดียว คุณภาพไฟล์ไม่ดีเท่าที่ควร มันก็จริง.. จริงสำหรับบางคน สำหรับตัวผมเอง ผมใช้ถ่ายภาพสตรีท (street ไม่ใช่ สตรี) ผมว่าไฟล์น้องดีงามอยู่นะ อาจจะมีเกรนบ้างในที่แสงน้อย แต่ไม่ได้เป็นปัญหาในการใช้งานของผม อ่อ แล้วเรื่องแบตหมดไว ปัญหานี้จะหมดไปถ้าเรามีแบตเพิ่ม ง่ายๆ แค่นั้นเอง ..
มาถึงตรงนี้หลายๆ คนน่าจะมีคำถามถึงมือที่สาม น้อง GRIII ที่ทำให้น้อง RX100VI ผู้เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติกล้องศรีเรือนประจำบ้าน ต้องอกหัก และกลายเป็นกล้องมือสองที่ขายออกจากบ้านไป ว่ามีคุณสมบัติเด็ดดวง งามพร้อมด้วยฟังชั่นการใช้งาน เป็นหน้าเป็นตาแก่ผู้พบเห็น ขนาดไหนกัน
จะบอกว่า ข้อดีของน้อง RX100VI ที่ผมเล่าให้ฟังเมื่อตะกี้ น้อง GRIII ไม่มีเลยสักข้อ! ..
เอาใหม่ๆ ตั้งใจฟังให้ดี ข้อดีของน้อง RX100VI ที่ผมเล่าให้ฟังเมื่อตะกี้ น้อง GRIII ไม่มีเลยสักข้อ!… ถูกแล้ว ที่คุณอ่านนั่นแหละ ถูกแล้ว น้อง GRIII ไม่มีระบบโฟกัสฟ้าผ่า, ไม่มีช่องมองภาพติดมา, ไม่มีจอพับ, ไม่มี Flash, Zoom เข้าออกไม่ได้ และมีฟังชั่นการถ่ายวีดีโอแบบสามัญชน
ฟังแบบนี้แล้ว เธอผู้มาใหม่ไม่น่าจะมีอะไรเทียบกับน้อง Rx100VI ผู้เพียบพร้อมได้เลยสักนิด ถ้าจะบอกว่าน้อง GRIII มีไฟล์ภาพที่ดีกว่า เพราะตามสเปกเป็นที่รู้กันว่าไฟล์ที่ได้จากกล้อง APS-C เซ็นเซอร์ใหญ่กว่า ภาพที่ได้ต้องดีกว่า แต่อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ เรื่องไฟล์ไม่ได้เป็นข้อเสียของ RX100VI สำหรับผม มันไม่ได้แตกต่างกันขนาดนั้น
ความเพียบพร้อมของ RX100VI ทำผมสับสนอยู่เหมือนกัน จริงๆ ผมก็มีความโลเลในการเลือกอยู่พอสมควร งั้นตอนนี้เรามาดูกันที่ GRIII กันบ้างดีกว่า..
Ricoh GrIII เธอเปรียบได้กับ หญิงสาวที่มาจากตระกูลเก่าแก่ สืบสายเลือดโดยตรงจากฟิล์มพบุรุษ ที่แฟนตัวจริงหลายๆ คน รู้จักในนามของ GR1 กล้องฟิล์ม compact premium ผู้โด่งดังในช่วงปลาย 90s จากนั้น ชื่อของ GR ก็เป็นที่ชื่นชอบ และมีคนติดตามรุ่นต่อรุ่น อย่างอุ่นหนาฝาครั่งในกลุ่มเล็กๆ ตลอดมา..
ก่อนหน้านี้ ผมมีความทรงจำดีๆ ร่วมกับ GRII ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ปลายฤดูหนาวปีที่แล้ว เธอเป็นกล้องที่ผมหามาลองใช้ด้วยความคัน จากการที่โดนป้ายยมาหลายขนาน ตอนที่เราเจอกันนั้น ถึงเธอจะเป็นรุ่นล่าสุดในตระกูล GR แต่ก็เป็นรุ่นล่าสุดที่วางขายมากว่า 4 ปีแล้ว คงจะไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่าในปัจจุบัน GRII เป็นกล้องที่ล้าหลังทางด้านเทคโนโลยีอย่างแท้จริง และเหตุนี้เอง ทำให้ผมอยู่กับเธอได้ไม่นาน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม หลายๆ คน ก็ยังซื้อหามาใช้ และหลายๆ คน ก็ยังคงได้ภาพดีๆ จากเธอ.. GRII ผู้ตกรุ่น
กลับมาที่ GRIII ตัวล่าสุด ในวันนี้ เธอมาพร้อมการอัพเกรดฟังชั่นการใช้งาน และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างที่กล้องปี 2019 ควรจะมี น้องใหม่ GRIII ทำได้ดีกว่าป้า GRII ในทุกๆ ด้าน การโฟกัสที่ว่องไวขึ้น iso ทำได้ดีขึ้น ความละเอียดภาพเพิ่มขึ้นตามมาตราฐานกล้องปัจจุบันคือ 24 ล้านพิกเซล เพิ่มกันสั่น 3 แกนเข้ามา แต่ก็มีส่วนที่เอาออกไปจาก GRII และเป็นสิ่งที่ Fanboy ทั่วโลกแอบเสียดายในจุดนี้ นั่นคือการจากไปของ flash หัวกล้องนั่นเอง .. แหม่ อีกนิดเดียวจะสมบูรณ์แบบแล้วเชียว
ฟังๆ ดู GRIII ไม่ได้มีอะไรน่าว้าวเลย ถ้าต้องเทียบกับ RX100VI แล้วทำไมผมถึงเลือกที่จะคบหาดูใจกับ GRIII แทนที่จะเป็นผู้เพียบพร้อมอย่างน้อง RX100VI?
จริงๆ แล้ว ผมมีเหตุผลไม่เยอะหรอกครับ ส่วนใหญ่ที่มีมันคืออารมณ์ และความรู้สึกมากกว่า ที่ทำให้ตัดสินใจเลือก GRIII ฟังดูไม่ค่อยเข้าท่า แต่โดยปกติคนเรามีแนวโน้มที่จะเลือกสิ่งที่ “ชอบ” มากกว่าสิ่งที่ “ใช่” อยู่แล้ว (อันนี้ผมพูดเอง ไม่ได้มีการรับรองจากงานวิจัยชิ้นใดๆ ในโลก) และนี่คือเหตุผลที่มีอันน้อยนิด กับความรู้สึกล้วนๆ ที่ผมเลือก GRIII
- ผมชอบถ่ายแนว Street และกล้องตระกูล GR ก็ได้ชื่อว่าเป็น King of Streetphotography camera มาทุกรุ่น จะเป็นเพราะการตลาด หรืออะไรก็ตาม มันมีผลกับคนหัวอ่อน เชื่อคนง่ายอย่างผม ผมรู้สึกอินกับทุกสิ่งที่ผมชอบ และนี่คือหนึ่งในนั้น
. - อยากเดินตามรอย idol ช่างภาพสตรีทที่เราชื่นชม ซึ่งหลายๆ ท่านใช้ GR เป็นกล้องคู่กาย ที่มีอิทธิพลกับผมมากๆ เลยก็คือ อ.ไดโดโมริยาม่า (Daido Moriyama) อ.ไอซ์ (Jad Jadsada) (และอีกหลายคนที่ไม่ได้พูดถึง) ถึงแม้ว่าใช้แล้วจะไม่ได้ทำให้ได้ภาพระดับเทพอย่างเค้า แต่อย่างน้อยๆ ก็ได้ใช้งานกล้องรุ่นเดียวกัน ฟังดูช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ฮ่า..
. - GRIII มีการจับถือที่ดี เข้ามือ และมีการออกแบบปุ่มการใช้งานต่างๆ ที่สามารถควบคุมได้ด้วยมือเดียว อันนี้โคตรดีเลยคุณ เวลาออกไปเดินถ่ายรูปมือขวาถือน้อง GRIII มือซ้ายจับมือภรรยาที่รักเอาไว้ อยากปรับค่ากล้องทั่วไปก็ทำได้ในมือเดียว เฟี้ยวมากเลยข้อนี้
. - โหมด Snap ที่เป็นเหมือนลายเซ็นประจำตัวของกล้องตระกูลนี้ โหมด snap คือการที่กล้องสามารถตั้งค่าระยะโฟกัสไว้ล่วงหน้า เมื่อเจอซีนที่รอไม่ได้ ต้องใช้ความไวในการถ่าย ก็สามารถกดปุ่มชัตเตอร์ลงสุดเพื่อถ่ายได้เลย กล้องจะใช้โฟกัสระยะที่เราตั้งไว้ในโหมด Snap นั่นเอง ไม่ต้องกดครึ่งหนึ่งเพื่อรอกล้องหาโฟกัส ทำให้การถ่ายแนว Street มีความสนุกมากขึ้น เป็นข้อดีที่ผมชอบมากและใช้งานอยู่เป็นประจำ
ทำไมไม่เก็บไว้ใช้ทั้งสองตัว ทั้ง GRIII และ RX100VI ไม่เห็นต้องเลือกตัวใดตัวหนึ่งเลย..
ทีแรกผมเลือกที่จะเก็บเธอไว้ทั้งสองตัว โดยมีเหตุผลที่ดีในหัวว่า จะได้มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน แต่ผมก็พบกับปัญหาในการเลือกหยิบ ทุกๆ ครั้งที่จะออกจากบ้าน “ตัวไหนดีวันนี้” อยู่ทุกๆ วัน จนหลายๆ ครั้ง ผมพกออกไปแม่งทั้งสองตัวเลย (ขออภัยที่หยาบคาย อยากให้คุณผู้อ่านเข้าใจความรู้สึก)และการพกออกไปสองตัวมันทำให้ต้องคิดมากไปอีกตอนใช้งาน เสียสมาธิอย่างแรง แทนที่จะมีสมาธิอยู่กับซีนตรงหน้า ต้องมาคอย..
เอาตัวไหนถ่ายดี แบบนี้น่าจะซูมนะ ยก RX100VI มาใช้ดีกว่า
ตรงนี้ยิง flash น่าจะดี ต้อง RX100VI อีกแล้วสิ
หูย.. ตรงนี้โมเม้นได้ ยก GRIII ขึ้นมา Snap เลย
เห็นภาพกันไหม เปลี่ยนกล้องไปมา จนมือเป็นปลาหมึกเลย ปัญหานี้เป็นปัญหาที่เกิดกับผมนะครับ หลายๆ คนอาจจะไม่เป็นแบบนี้ และเพราะแบบนี้ ผมจึงควรเลือกที่จะมี ที่จะใช้ ตัวเดียวไปเลยดีกว่า และการที่จะทำแบบนั้นได้ก็ควรมากๆ ที่ต้องตัดใจปล่อยตัวที่ใช่ และเก็บตัวที่ชอบไว้นั่นเอง ..
สำหรับ Ricoh GRIII เป็นกล้องที่ดี แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน นอกจากอ่านที่ผมโม้มอย มาทั้งหมดนั่นแล้ว คุณที่กำลังสนใจ แต่ไม่ได้เป็น Fanboy มาก่อน ควรจะได้ไปลองจับถือตัวจริงๆ ดู จะชั่วคราวก็ดี หรือค้างคืนก็ดี (ถ้ามีให้ลอง) จะดีมาก เพื่อการตัดสินใจที่ตรงตามความต้องการของคุณที่สุด
ผมคงต้องขอยืมประโยคคลาสสิคตลอดกาล เพื่อให้เหตุผลกับเธอน้อง Rx100VI สำหรับสาเหตุการแยกทางในครั้งนี้ว่า “เธอดีเกินไป”.. แต่ผมก็ยังคิดว่าการมาของเธอในเวอชั่น 7 หรือ 8 น่าจะทำให้ถ่านไฟเก่าของคนสองใจอย่างผมได้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง… ลาก่อนจ๊ะ.. (ณ เวลานี้)