
ถ้าถามว่ามีใครไหมครับที่ชอบ “ความซ้ำซาก จำเจ”?? เชื่อว่าไม่น่าจะมีใครยกมือชื่นชอบ ”ความซ้ำซาก จำเจ” กันสักเท่าไหร่
พอดีเรื่องนี้มาจากประเด็นการพูดคุยกันในกลุ่มเพื่อนๆ ผมเอง ที่หลายๆ คนน่าจะกำลังรู้สึกว่า ชีวิตที่เป็นอยู่มัน “ซ้ำซาก จำเจ” เหลือเกิน เบื่อจนไม่รู้จะเบื่อยังไงแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องงานที่ทำๆ กันอยู่นี่แหละ
และในบทสนทนาที่เกิดขึ้น “ความซ้ำซาก จำเจ” ก็ดูจะเป็นตัวร้าย เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด ความน่าเบื่อ และความเหนื่อยหน่ายที่เกิดขึ้นในชีวิตของหลายๆ คนในตอนนี้..
…
ในคืนนั้นเอง..
ระหว่างที่ผมกำลังอาบน้ำก่อนจะเข้านอน ในตอนที่กำลังล่อนจ่อนอยู่นั้น ก็มีความคิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัว และแสดงให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของ “ความซ้ำซาก จำเจ” ว่ามันก็ได้สร้างสิ่งดีๆ หลายๆ อย่าง ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราด้วยเช่นกัน.. (ดูเป็นคนมีของ..)
เราตื่นเช้า รีบเร่งออกไปทำงานที่น่าเบื่อ ซ้ำซาก จำเจ มากว่าสิบปี เบื่อจนไม่รู้จะเบื่อยังไงแล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่ง “ความซ้ำซาก จำเจ” นี้ ทำให้เราดูแลครอบครัวได้ สิ่งที่น่าเบื่อเหล่านี้ ทำให้เรากลายเป็นพ่อที่ดี แฟนที่ดี ผู้นำครอบครัวที่ดี..
เราหาเวลาไปเข้ายิมทุกวัน ยกลูกเหล็ก ออกกำลัง ทั้งหนัก ทั้งน่าเบื่อ ปวดเนื้อปวดตัว และยังต้องเลือกกินแต่ของไม่อร่อยอย่าง “ซ้ำซาก จำเจ” แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความน่าเบื่อเหล่านี้ก็ทำให้เรามีรูปร่างที่ดี มีสุขภาพที่ดี ใครเห็นต่างก็รู้ว่า เราคือคนที่รักสุขภาพ หุ่นดี เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆ ได้อีกด้วย
เราทำช่อง youtube สอนทำอาหาร ลงคลิปเป็นประจำ เราต้องถ่าย ต้องตัดต่อ ซ้ำๆ อย่างจำเจ จนถึงขั้นน่าเบื่อ แต่เราก็ทนทำต่อไป เพราะในด้านหนึ่ง คนมากมายได้รู้จักเรา ว่าเราคือ youtuber สายทำอาหาร และสร้างโอกาสต่างๆ เข้ามาในชีวิต เพราะสิ่งที่เราทำเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ
ไม่ว่าเรื่องอะไรที่จะทำให้เรากลายเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น เป็นพ่อที่ดีขึ้น เป็นคนสุขภาพดีขึ้น เป็นคนที่มีความรู้มากขึ้น ดูเหมือนว่าทุกอย่างที่ดีจะขาด “ความซ้ำซาก จำเจ” ไม่ได้เลย..
บรูซ ลี เคยบอกเอาไว้ว่า
“เขาไม่กลัวคนที่ฝึกเตะมาเป็นพันท่า แต่กลัวคนที่ฝึกเตะท่าเดียวเป็นพันครั้ง”
เพราะเขาจะมีท่าไม้ตายที่เอาชนะได้ยาก การมีท่าไม้ตาย มันก็เกิดจากการฝึกท่าเดิมๆ อย่าง “ซ้ำซาก จำเจ” นั่นเอง ..
จริงๆ แล้ว “ความซ้ำซาก จำเจ” อาจจะเป็นร่างหนึ่งของ “ความสม่ำเสมอ” ก็เป็นไปได้นะ
การจะเรียกว่ามันเป็นความซ้ำซากจำเจ หรือ ความสม่ำเสมอนั้น ผมคิดว่ามันน่าจะอยู่ที่ความชัดเจนของเป้าหมายที่เรามีให้กับตัวเอง
เป้าหมายที่มี ไม่ชัดเจน สิ่งที่ทำก็จะเป็นเรื่อง ซ้ำซาก จำเจ..
แต่ถ้าเป้าหมายที่เรามีชัดเจน มันก็จะเรียกได้ว่าเป็น ความสม่ำเสมอ ขึ้นมาทันที
ถ้าเรารู้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ มันทำให้ชีวิตครอบครัวของเราดีขึ้น เราก็จะมีความมุ่งมั่น ทำสิ่งต่างๆ ที่ทำอยู่อย่างสม่ำเสมอ อย่างตั้งใจ ถึงจะเหนื่อย ถึงจะเบื่อ แต่เราก็ทำได้อย่างมีพลัง
ถ้าสิ่งที่เราทำอยู่ มันทำให้ชีวิตเราดีขั้น ช่วยทำให้เราเป็นคนในแบบที่เราอยากเป็น เราก็จะมีความมุ่งมั่น ทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นได้อย่างสม่ำเสมอ ถึงจะเหนื่อย ถึงจะเบื่อ แต่เราก็ทำได้อย่างมีพลังเช่นกัน
และถ้าวันไหน เรารู้สึกว่า ความสม่ำเสมอที่เรามีเริ่มจะกลายเป็นความซ้ำซาก จำเจ ก็ลองหาเวลาพัก ทบทวนสิ่งต่างๆ กับตัวเองสักหน่อย บางทีเราก็อาจจะแค่เหนื่อยก็เป็นไปได้นะครับ
และถ้ารู้สึกว่า ทนเรื่อง “ซ้ำซาก จำเจ” ที่มีอยู่ไม่ไหวแล้ว การที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ แต่สิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือ การเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ สุดท้ายแล้ว มันก็จะกลายเป็นเรื่อง “ซ้ำซาก จำเจ” เรื่องใหม่ของชีวิตเราอยู่ดี..
ก็ลองเลือกกันดูนะครับ จะให้มันเป็น “ความซ้ำซาก จำเจ” หรือเป็น “ความสม่ำเสมอ” ดี…
เราเลือกได้ครับ..
ทอมมี่
ไม่พลาดเรื่องราวดีๆ ก่อนใคร กดรับข่าวสารทาง email กับผมใน project ที่ชื่อ A Newsletter From The Desk of Tommy Talk กันได้นะครับ
สมัครง่าย แค่กดลิงค์ และใส่ email ของคุณเอาไว้
https://tommytalk.substack.com/